http://www.thairath.co.th/content/tech/313024
อินเทล นำเสนอรูปแบบห้องเรียนแห่งอนาคต ที่มีการเรียนการสอนแบบอี-เลิร์นนิ่ง ที่นักเรียนทุกคนได้ใช้คอมพิวเตอร์คนละเครื่องในห้องเรียน โดยมีโครงการนำร่องครั้งที่สองที่ ร.ร.ทวีธาภิเศก และ ร.ร.วัดราชาธิวาส เพื่อหนุนนโยบายแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของรัฐบาล…
โมเดลห้องเรียน แห่งอนาคตเป็นโซลูชั่นประกอบการเรียนการสอนในรูปแบบของ อี-เลิร์นนิ่ง ซึ่งนักเรียนทุกคนได้ใช้คอมพิวเตอร์คนละเครื่องในห้องเรียน (1:1 eLearning) ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 นี้เป็นต้นไป อินเทลได้จัดทำโครงการนำร่องครั้งที่สอง ภายใต้แนวคิด “ห้องเรียนแห่งอนาคต” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนทวีธาภิเศก และโรงเรียนวัดราชาธิวาส เพื่อสนับสนุนนโยบายแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา (One Tablet Per Child) ของรัฐบาล โดยสิ่งที่อินเทลให้การสนับสนุน ได้แก่
ติดตั้งระบบไอซีที พื้นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการเข้าถึงคอนเทนต์ ประกอบด้วย ระบบการกระจายคอนเทนต์ ไฟร์วอลล์ ระบบรับคอนเทนต์ และระบบบริหารจัดการในห้องเรียน (Content Distribution Network, Firewall, Content Caching, Classroom Management) จัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรครู ควบคู่กับการอบรมผ่านโปรแกรม อินเทล ทีช และอินเทล เลิร์นนิ่ง ซีรีส์ 1:1 เป็นต้น
โมเดลห้องเรียนแห่งอนาคตที่โรงเรียนทวีธาภิเศก และโรงเรียนวัดราชาธิวาส
อินเทล จัดหาแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ให้กับโรงเรียนเพื่อใช้ในการศึกษาสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในช่วงระหว่างการดำเนินงานโครงการนำร่อง โดยเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 โรงเรียนวัดราชาธิวาส 1 ชั้นเรียน และนักเรียนพิเศษ 1 ชั้นเรียน และโรงเรียนทวีธาภิเศก 1 ชั้นเรียน แท็บเล็ตที่ใช้ในโรงเรียนติดตั้งโปรแกรมบริหารจัดการในห้องเรียน (classroom management software) ที่เป็นโปรแกรมที่ผู้สอนสามารถควบคุมกิจกรรม (บนแท็บเล็ต) ในระหว่างการเรียนในห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดหาอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ (Server Appliances) และโซลูชั่นการกระจายคอนเทนต์ (Content Distribution Solution) ให้แก่โรงเรียน
เซิร์ฟเวอร์โรงเรียนและโซลูชั่นการกระจายคอนเทนต์ ตอบโจทย์ความท้าทายหลักๆ สองประการ นักเรียนจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร หากประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีขีดจำกัด และครูจะค้นหาและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องโดยที่ไม่เป็นการเพิ่มภาระได้ อย่างไร การใช้โซลูชั่นการเข้าถึงคอนเทนต์ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนทั้งคัดสรรและสร้างสรรค์ คอนเทนต์ที่เหมาะสม คอนเทนต์จะถูกส่งจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางกระจายไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้ง อยู่ในแต่ละโรงเรียน นักเรียนและครูสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านเครือข่าย Wi-Fi ในพื้นที่ท้องถิ่นได้อย่างเร็วและเชื่อถือได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงการเชื่อม ต่ออินเทอร์เน็ตของโรงเรียน
อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมด้วยระบบ firewall protection รวมทั้ง caching ที่มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และบริการด้านเน็ตเวิร์กต่างๆ ที่โรงเรียนต้องการ เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ต้องการการตั้งค่าคุณสมบัติเพียงครั้งเดียว (one-time configuration) และไม่ต้องการการดูแลเพิ่มเติมในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และหากมีปัญหาเกิดขึ้น เซิร์ฟเวอร์สามารถควบคุมและเข้าถึงได้จากระยะไกล ขณะที่นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียนรู้ จากสำนักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน และคอนเทนต์ที่อินเทลจัดหาให้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น Skoool, Wikipedia, Khan Academy ผ่านทางอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ของโรงเรียน
การจัดหา โปรแกรมพัฒนาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ (Professional Development Program) สำหรับ Intel Learning Series 1:1 e-Learning การอบรมพิเศษเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ได้คัดเลือกมาเพื่อมอบความรู้ อย่างละเอียดในแง่การใช้งาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้รับได้
โครงการนำร่องครั้งที่ 1 แท็บเล็ต Intel Learning Series – การประเมินผลงาน
ใน เดือนกุมภาพันธ์ 2555 อินเทลจัดหาแท็บเล็ต Intel Learning Series เพื่อโครงการนำร่องสำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ของโรงเรียนสามแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งได้แก่ โรงเรียนอนุบาลสามเสน โรงเรียนประชานิเวศน์ และโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย
ผลการดำเนินโครงการ – คุณครูยังคงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการปฏิรูปการศึกษา
จาก โครงการนำร่องโครงการแรกการพัฒนาบุคลากรครูเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสร้าง พื้นฐานอันแข็ง แกร่ง และการนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติในห้องเรียน เมื่อมีแรงบันดาลใจและทราบถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีในห้องเรียนอย่างมี ประสิทธิภาพแล้ว คณะครูก็สามารถ “สร้างสรรค์” และ “ชักชวนนักเรียนให้มีส่วนร่วม” กับการเรียนรู้ได้
การใช้งาน เเท็บเล็ตพีซี อินเทล อะตอม ในห้องเรียน ทำให้เกิดการโต้ตอบอย่างกระตือรือร้นระหว่าง คุณครูและนักเรียน นักเรียนเพลิดเพลินกับการเรียนผ่านทางแอพพลิเคชั่นมากกว่าการเรียนแบบปกติ
นักเรียน แสดงออกถึงความสนใจที่เพิ่มมากขึ้น และเกิดแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมกับบทเรียน นักเรียน สนุกกับการใช้แท็บเล็ตพีซีในการค้นคว้าวิจัยการส่งการบ้านและการทำกิจกรรม กลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ
โปรแกรม classroom management software เป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์มากสำหรับคุณครูประจำ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ได้เรียนการใช้แท็บเล็ตมาก่อนแล้ว การควบคุมการใช้งานแท็บเล็ตอย่างใกล้ชิดในห้องเรียนจึงเป็นสิ่งจำเป็น
คณะ ครูใช้เทคโนโลยีในการทำงานต่างๆ อย่างหลากหลาย เช่น การทำงานวิจัย การพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน การสอนบทเรียน การนำเสนอสื่อมัลติมีเดีย และการคุมสอบ ทั้งนี้ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นวิชาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโมเดลอี-เลิร์นนิ่ง (เนื่องจากครู สามารถนำบทเรียนมาประยุกต์กับแอพพลิเคชั่นและเครื่องมือออนไลน์ต่างๆ ได้)
คณะ ครูต้องการให้มีการอบรมเพิ่มเติมและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในด้านการ พัฒนาหลักสูตร การเรียน และวิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมวิธีการสอนและการพัฒนาบุคลากร ขณะที่สิ่งที่ต้องการเพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น ได้แก่ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงและปลั๊กไฟเพิ่มเติม