Monthly Archives: November 2008

บรอดแบนด์ทั่วโลกลดราคาแล้ว ไทยเมื่อไรจะลด


:

บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ทั่วโลกลดราคาลงแล้ว 20% นับตั้งแต่ต้นปี

กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : Point Topic บริษัทวิเคราะห์แห่งหนึ่งในอังกฤษสำรวจราคาบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่าน สายโทรศัพท์บ้านทั่วโลกพบว่า ค่าบริการรายเดือนช่วงไตรมาสแรกเฉลี่ยเกือบ 67 ดอลลาร์ต่อเดือน (ราวสองพันกว่าบาท) พอไตรมาสสามลงมาเหลือ 53 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ค่าบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในสหรัฐลดลงเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เนื่องจากถูกกว่าภาคพื้นอื่น คนอเมริกันจ่ายค่าบรอดแบนด์เดือนละ 16 ดอลลาร์ หรือ 500 กว่าบาทเท่านั้น สำหรับความเร็ว 1 เมกะบิต ส่วนแถบตะวันออกกลางและแอฟริการาคา 46 ดอลาร์สำหรับ 1 เมกะบิต/วินาที

แต่ราคาอินเทอร์เน็ต DSL ของยุโรปเริ่มถูกลง และในประเทสเอเชีย-แปซิฟิกยิ่งถูกใหญ่เพราะจ่ายกัน 3.80 ดอลลาร์ต่อ 1 เมะบิตเท่านั้น

บริการอินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิลใน สหรัฐถูกกว่าในยุโรปบนความเร็วเท่ากัน แต่สถานการณ์กลับตาลปัตรเมื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของยุโรปเพิ่มความ เร็วสูงขึ้น แต่ราคาต่ำลง ผู้ให้บริการในสหรัฐเพิ่มความเร็วเหมือนกัน แต่คงราคาไว้เท่าเดิม

Point Topic ยังบอกด้วยว่า บริการบรอดแบนด์ผ่านใยแก้วนำแสงในสหรัฐที่ให้บริการโดย FiOS บริษัทในเครือเวอริโซน คอมมิวนิเกชั่น เป็นทางเลือกที่ถูกที่สุด หากเทียบกับสปีด แม้ค่าบริการรายเดือนจะสูงที่สุด แต่ราคาลดลงมาจากปีที่แล้วต่ำกว่าบรอดแบนด์ผ่านสายโทรศัพท์เสียอีก

สำหรับเมืองไทยไม่อยู่ในรายการสำรวจ แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องถูกลงหรอก ขอความเร็วเต็มๆ อย่างที่โฆษณาก็แล้วกัน

ข่าวจาก http://www.bangkokbiznews.com/2008/11/08/news_309936.php

อยากทำงานที่แอ๊ปเปิ้ล ต้องเก่งแค่ไหน


อยากร่วมงาน:ไม่รู้ว่าหนูน้อยคนนี้กำลังกรอกใบสมัครทำงานกับสตีฟ จ๊อปส์ อยู่หรือเปล่า

แอ๊ปเปิ้ลประกาศหาเพื่อนร่วมงานหลายตำแหน่ง อยากกระทบไหล่กับ สตีฟ จ็อปส์ ต้องมีประสบการณ์อะไรบ้าง มาดู

กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ :  หากดูจากรายงานประจำปีที่ต้องยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ หรือที่เรียกว่าแบบฟอร์ม 10 K ของบริษัท แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ มีข้อมูลตัวหนึ่งที่น่าสนใจคือ ปีที่แล้ว แอ๊ปเปิ้ลจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นประมาณ 50% แต่ถ้าดูตัวเลขจ้างงานจากบอร์ดประกาศรับสมัครงานของแอ๊ปเปิ้ลกลับประกาศรับ เพียงไม่กี่ตำแหน่งที่น่าสนใจ

ท็อด บิช็อป บล็อกเกอร์จากเว็บ TechFlash เป็นคนให้ข้อสังเกตุนี้

“รายงานประจำปีของแอ๊ปเปิ้ลแจ้งต่อตลาด คณะกรรมการหลักทรัพย์ระบุว่า  ปีที่แล้ว แอ๊บเปิ้ลจ้างงานเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ตัวเลขดังกล่าวแสดงว่าบริษัทจ้างงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ก็ทำให้เกิดคำถามมาพร้อมกันว่า แอ๊บเปิ้ลจะลดจำนวนพนักงานหรือไม่เมื่อเจอเศรษฐกิจขาลง

ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ iMac, iPhone และ iPod รายงานว่า ณ วันที่ 27 กันยายน 2008 แอ๊ปเปิ้ลรายงานว่ามีพนักงานประจำจำนวน 32,000 คน ไม่นับพนักงานชั่วคราวอีก 3,100 คน เมื่อนำไปเทียบกับปีก่อนพบว่า แอ๊ปเปิ้ลมีพนักงานประจำ 21,600 คน และมีพนักงานชั่วคราว 2,100 คน ส่วนปี 2006 แอ๊ปเปิ้ลมีพนักงานประจำ 17,787 คน พนักงานชั่วคราว 2,399 คน”

ถ้าไปดูประกาศรับสมัครงานของแอ๊ปเปิ้ล จะพบว่ามีตำแหน่งงานที่น่าสนใจอยู่เพียงไม่กี่ตำแหน่ง ไม่นับพวกงานเจ้าหน้าที่ประจำร้าน Apple Store, ช่างซ่อม iPod, ช่างซ่อมเครื่องแมคอินทอช และงานในส่วนของร้านค้าปลีก

ตำแหน่งงานที่น่าสนใจมีอยู่ 2 ตำแหน่ง อันดับแรกคือ สถาปนิกผลิตภัณฑ์ระบบแมค รับผิดชอบเกี่ยวกับออกแบบระบบสำหรับระบบปฏิบัติการแมคอินทอชรุ่นใหม่ครอบ คลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์พกพาไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์

คนที่มีโอกาสร่วมงานกับแอ๊ปเปิ้ลต้อง มีความคุ้นเคยด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ชั้นสูง ต้องเคยผ่านงานด้านการออกแบบวงจรรวม ระบบฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ มีความสามารถประสานงานกับทีมงานภายใน และภายนอกได้ทุกสายงาน เพื่อกำหนดทิศทางวางสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์ในอนาคต

อีกตำแหน่งเป็นสถาปนิกด้านอีเลิร์น นิ่ง มีหน้าที่วิจัยเทคโนโลยีอีเลิร์นนิ่ง และออกแบบโปรแกรม REtail Traing ต้องสามารถเขียนแผนพัฒนาที่มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอีเลิร์นนิ่ง โดยคำนึงถึงขีดจำกัดขององค์กร และข้อจำกัดทางเทคนิค สร้างนวัตกรรมที่บรรลุเป้าหมายด้านการเรียนรู้ที่วัดผลได้ พัฒนาหรือเป็นผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่สามารถใช้ทดสอบได้หลายรูปแบบ

ยังมีอีก ต้องทำงานร่วมกันกับผู้ผลิตตามสัญญาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ต้นแบบมาเชื่อมต่อกับ โครงงานอีเลิร์นนิ่งเดิม ติดต่อประสานงานกับผู้ค้าในกรณีจำเป็น เป็นหัวหน้านำประชุมวาระวิเคราะห์/ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ นำประชุมฟังความเห็นของยูสเซอร์ต่อผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ทำงานเป็นทีม ถ่อมตน เข้ากับคนอื่นง่าย และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น

ใครมีคุณสมบัติตามนี้เชิญสมัครได้เลย

ปล. ไม่รับ บิลล์ เกตส์

ไอเอสเอสพีหวัง3จี-ไวแม็กซ์ดันตลาดเน็ต


:

ไอ เอสเอสพี หวังเทคโนโลยีใหม่ 3จี-ไวแม็กซ์ ช่วยดันตลาดอินเทอร์เน็ต ทำต้นทุนลด เพิ่มช่องทางสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ ดึงดูดผู้ใช้ ทั้งมีแนวโน้มสร้างคอนเทนต์เอง

กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : นางสาวกนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เน็ต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด (ไอเอสเอสพี) และบริษัท คอนเนค วัน จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ทำให้กิจการต่างๆ ควบคุมงบประมาณ จำนวนผู้ใช้โตขึ้น 10-20% แต่รายได้น่าเป็นห่วง ไม่ขยาย

ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนจะเกิดเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา เช่น 3จี ไวแม็กซ์ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนลดลง และมีบริการใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น คลิปวิดีโอ ริงโทน ดาวน์โหลด ขณะที่ผู้ใช้จะสร้างสรรค์คอนเท้นต์ใหม่ๆ เองมากขึ้น ส่วนตัวบริษัทเองจะเตรียมสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ตามกระแส เพื่อนำไปรองรับการใช้งานโทรศัพท์มือถือได้ด้วย

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอสเอสพี และคอนเนค วัน กล่าวว่า บริษัทเคยตั้งเป้ายอดรายได้ปีนี้ 500 ล้านบาท ซึ่งถึงเวลานี้ ที่ทราฟฟิกเพิ่มมาก แต่รายได้ไม่ได้โตตามไปด้วย จากปัญหาการแข่งขันกันดัมพ์ราคาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2551 จึงต้องประคองตัวให้อยู่รอดช่วง 1-2 เดือนนี้

อย่างไรก็ตาม การมีพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ออกมาบังคับใช้ ได้ช่วยบริการที่เป็นมูลค่าเพิ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นนับสิบราย แต่การต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต (Internet Access) ค่อนข้าง “เหนื่อย” โดยเฉพาะเมื่อเป็นไอเอสพีที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง ซึ่งแข่งขันลำบาก

“อนาคตของไอเอสพี พวกมีสายป่าน และลดราคาได้อีกจะไปได้อีกเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ได้จนพอใจ มีครบทั้งลูกค้า โครงข่าย และแอพพลิเคชั่น ซึ่งถึงเวลานั้นไอเอสพีที่ไม่มีระบบโทรคมของตัวเองคงไม่เหลือ หรือยังใช้ชื่อว่าไอเอสพีอยู่ แต่การทำธุรกิจจะเปลี่ยนรูปแบบไป”

ส่วนของบริษัทช่วงหลัง รายได้จะเกิดจากบริการเพิ่มมูลค่า และอื่นๆ มากกว่าการต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตหลายเท่า แต่เมื่อเฉลี่ยรายได้ทั้งปีแบ่งเป็นอินเทอร์เน็ต แอ็คเซส 40% โค โลเคชั่น 40% และแวลลู แอดเด็ด 20% แต่ช่วงหลังๆ รายได้จากแวลลู แอดเด็ดเปลี่ยนสัดส่วนเพิ่มเป็น 40%

ทั้งนี้ บริษัทได้เพิ่มรายได้จากงานแวลลู แอดเด็ด เช่น การวางระบบไอพีที่ใช้งานซับซ้อนขึ้น การใช้งานโครงข่ายอินเทอร์เน็ต วอยซ์ โอเวอร์ไอพี ที่ต่อยอดมาจากการใช้เฉพาะอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่งการแข่งขันจะต้องไปแข่งกับผู้ให้บริการรวบรวมระบบ (เอสไอ) ที่มีจุดเด่นด้านการจัดหาอุปกรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ได้ดีกว่า

กระนั้น เขามั่นใจว่า บริษัทมีจุดเด่นที่ความชำนาญระบบบนโลกไอพี เช่น การป้องกันความปลอดภัย และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอินเทอร์เน็ต จะเป็นตัวช่วย ฉะนั้น หากวางตำแหน่งธุรกิจดีๆ จะอยู่รอดได้ หรือเข้าไปจับมือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน

ขณะเดียวกัน เขาเห็นว่า ตลาดรวมยังโตได้ 20% จากขนาดตลาด 2 พันล้านบาท แม้เอสเอ็มอีบางรายที่ประสบปัญหาจะหยุดใช้บริการ แต่ก็ยังมีรายที่ต้องขยายกิจการต่อ ส่วนผู้ให้บริการจะมีรายที่ขยายโครงสร้างพื้นฐาน และลงทุนด้านบรอดแบนด์ เพราะมีเทียบกับประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ต ผู้ใช้บรอดแบนด์ยังมีจำนวนน้อย รวมทั้ง แอพพลิเคชั่นจะได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม

http://www.bangkokbiznews.com/2008/11/01/news_307910.php

ประกาศเรียกคืนแบตฯโซนี่ 1 แสนก้่อน


:

อ่า… อีกแล้วครับท่าน ประกาศเรียกคืนแบตเตอรี่ของผู้ผลิตพีซีแบรนด์ดัง รวม 1 แสนก้อน อันเนื่องมาจากปัญหาความร้อนเกินพิกัดของแบตเตอรี่ที่ผลิตโดยบริษัท โซนี่

กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : รัฐบาลสหรัฐฯแจ้งว่า ในจำนวนนี้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 2.15 แอมป์ (Ah) ที่ผลิตในญี่ปุ่น และส่งไปขายทั่วโลกผ่านแลปท้อปของฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) เดลล์ และโตชิบา ซึ่งปัญหาที่ประสบพบบ่อยก็จำพวกควัน ไฟลุกไหม้ เล็กๆน้อยๆ ให้ผู้ใช้ตกใจเล่น

งานนี้โซนี่อ้างว่า ต้นเหตุเกิดจากแบตเตอรี่ที่ผลิตช่วงเดือน ต.ค. 2547-มิ.ย.2548 ซึ่งอาจเกิดจากข้อผิดพลาดในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ โดยในจำนวนนี้ แบตเตอรี่ที่มีปัญหาถูกจำหน่ายพ่วงไปกับพีซีในสหรัฐฯ 3.5 หมื่นเครื่อง ผ่านแบรนด์เอชพี รุ่นที่ผลิตระหว่างเดือน ธ.ค.2547-มิ.ย.2549 รวมถึงรุ่นเอชพี พาวิลเลียน, คอมแพค และคอมแพค เพรสซาริโอ

นอกจากนี้ยังลามไปถึงเดลล์ ละติจูด และอินสไปรอน ที่ผลิตช่วงเดือน พ.ย.2547-พ.ย.2548 บางรุ่น และโตชิบา แซทเทลไลท์ และเทครา ที่ผลิตขายช่วงเดือนเม.ย.2548- ต.ค.2548 และอีก 6.5 หมื่นเครื่องที่ส่งไปขายนอกตลาดสหรัฐฯ

เอาเป็นว่า…ใครใช้แลปท้อปยี่ห้อ ไหน ค่ายใด ลองตรวจสอบดูหน่อย ถ้าเจอกรุณาถอดแบตฯ ออกโดยด่วน และติดต่อขอเปลี่ยนคืนแบตฯ เจ้าปัญหาได้จากเว็บไซต์ของแลปท้อปแต่ละค่ายได้โดยตรง

http://www.bangkokbiznews.com/2008/11/01/news_308017.php